ทำไปแล้วไม่เจ็บเท่ายังไม่ได้ทำ

ถ้าหากเรามองย้อนกลับไปยังอดีตที่เคยผ่านมาจะมีหลายๆ สิ่งที่เราอยากกลับไปแก้ไขหรืออยากจะทำบางสิ่งบางอย่างตั้งแต่ตอนนั้น แต่รู้ไหมความคิดเหล่านี้มักจะมาจากการที่เราไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ ที่อยากจะทำในวันนี้ ในอดีตที่ผ่านมาในวันนั้น ซึ่งนั่นก็คือความผิดหวังต่อสิ่งที่ไม่ได้ทำมากกว่าสิ่งที่ทำลงไปนั่นเอง ดังนั้นเราควรจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบรัดกุมมากขึ้น ซึ่งก็หมายถึงการที่เราควรจะหันมองดูสิ่งที่เราต้องการให้มากกว่าเดิมเพื่อที่จะได้จะไม่ต้องมองย้อนหาอดีตที่ผ่านมาดังเช่นตอนนี้ที่อยากกลับไปแก้ไข ดังนั้นการวางแผนต่ออนาคตควรเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจยิ่งขึ้น

การสร้างทิศทางของชีวิตและวางแผนลำดับให้เป็นขั้นเป็นตอนจะสามารถช่วยให้รูปแบบการใช้ชีวิตได้อยากสมปรารถนา และยังสามารถช่วยลดความรู้สึกที่อยากกลับไปแก้ไขอดีตที่ผ่านได้ดีอีกด้วย เนื่องด้วยเมื่อมีการออกแบบและวางแผนการกระทำของตนเองอยากชัดเจน ก็หมายถึงตัวเราจะมีทัศนคติต่อการใช้ชีวิตที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจะมีนิสัยการคิดและลงมือทำในรูปแบบที่มีการวิเคราะห์มาก่อนแล้ว ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้ทิศทางของผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกได้มากขึ้น

ดังนั้นหากเราไม่อยากที่จะมานั่งคิดวุ่นวายอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไปสิ่งต่างๆในอดีตแล้วละก็ จงมีสติต่อทุการกระทำที่เกิดขึ้นในการดำรงชีวิตของตนเอง และหมั่นทบทวนพฤติกรรมและการกระทำของตนเองอยู่เสมอ หากมีตรงไหนที่รู้สึกอยากจะปรับปรุงแก้ไขก็จะได้รีบปรับปรุงและแก้ไขสะตั้งแต่เนิ่นๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้เวลาล่วงเลยผ่านไปนานจนมานึกได้ก็ในวันที่ไม่สามารถกลับไปแก้ได้และต้องมานั่งเสียใจ และนึกย้อนถึงอดีตเหล่านั้นจนสะสมทำให้เกิดความรู้สึกในเชิงลบต่อตนเอง

จริงๆ แล้วไม่ใช่มีเพียงแค่เรื่องราวที่ไม่ดีที่อยากจะแก้ไขเพียงอย่างเดียว ในการที่อยากกลับไปแก้ไขนั้นก็มีถึงเรื่องราวดีๆ ด้วยเช่นกัน การที่หวนถึงเรื่องราวในอดีตจึงเป็นผลของการกระทำที่เราอยากจะทำในวันนั้นแต่กลับไม่ได้ทำ หรือได้ทำไปแล้วแต่ผลออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเมื่อเราเริ่มเข้าใจแล้ว จึงต้องรีบเปลี่ยนรูปแบบของชีวิตของเราเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในวันต่อๆ ไปดังเช่นวันนี้อีก อยากทำสิ่งใดในวันนี้จงรีบทำซะก่อนที่จะกลายเป็นมานั่งเสียใจในวันต่อไปว่ารู้อย่างนี้น่าจะทำไปแล้วตั้งแต่วันนั้น